วันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2559

วิธีวางแผนเส้นทางรถไฟญี่ปุ่น ด้วย Hyperdia

การเดินทางด้วยรถไฟในญี่ปุ่นเป็นสิ่งที่คนไปเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเองนิยมใช้บริการกันมาก ทีนี้สำหรับมือใหม่ทั้งหลาย เมื่อเปิดดูแผนที่รถไฟญี่ปุ่นปุ๊ป คงต้องร้องจ๊ากกันเป็นแถว เพราะระบบรถไฟญี่ปุ่นถือเป็นระบบขนส่งที่ซับซ้อนที่สุดในโลก แต่ถ้าเรารู้จักกับมันดี มันจะเป็นสิ่งที่อำนวยความสะดวกในการเดินทางของเราได้ดีทีเดียว

วันนี้แอดมินมีวิธีที่จะช่วยมือใหม่หาเส้นทางในรถไฟญี่ปุ่นแบบง่ายๆ ถ้าทำได้ก็โยนแผนที่รถไฟอันน่ามึนงงทิ้งไปได้เลย

ต่อไปนี้จะเป็นขั้นตอนในการหาเส้นทางรถไฟ
ตัวอย่างเหตุการณ์: ต้องการเดินทางจากโรงแรม Shin-Osaka Sunny Stone ไปยังปราสาทฮิเมจิ

1. หาข้อมูลตำแหน่งของโรงแรมเรา และปราสาทฮิเมจิด้วย Google Map

2. เมื่อได้ตำแหน่งแล้ว ให้หาสถานีรถไฟที่ใกล้สถานที่นั้นที่สุด
แผนที่ตำแหน่งโรงแรม Shin Osaka Sunny Stone
แผนที่ตำแหน่งปราสาทฮิเมจิ
จากตัวอย่างเราพบว่าสถานีรถไฟที่ใกล้โรงแรมที่สุดคือสถานี Nishinagajima Minamigata ของ Osaka Subway และสถานีรถไฟที่ใกล้ปราสาทฮิเมจิที่สุดคือสถานี Himeji ของ JR

*เคล็ดลับคือควรรู้ผู้ให้บริการรถไฟด้วย ว่าเป็น JR หรือบริษัทอื่น มันจะมีประโยชน์ในขั้นตอนต่อๆไป

3. เปิดเว็ปไซด์ http://www.hyperdia.com/en/ ซึ่งเป็นเว็ปไซด์สำหรับหาตารางรถไฟของญี่ปุ่น
4.กรอกข้อมูลที่ต้องการลงไป โดยเริ่มจาก
  • ใส่สถานีที่ต้นทาง และปลายทางลงไปใน 2 ช่องแรก
  • ใส่วันที่ และเวลาที่จะเดินทาง
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ข้อควรระวัง! มีรถไฟหลายเส้นทางที่เอกชนกับ JR มีรางใกล้ๆกัน ทำให้มี 2 สถานีที่เป็นคนละชื่อแต่อยู่ติดกันเลย เช่น เมืองนิกโกะจะมีสถานี Nikko ของ JR กับ สถานี Tobu Nikko ของ Tobu ซึ่งอยู่ห่างกันแค่ 100 เมตร ฉะนั้นใครที่จะใช้บริการรถไฟของ Tobu ต้องพิมพ์ชื่อสถานีปลายทางเป็น Tobu Nikko ถึงจะถูก
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ถ้าเรากด More options มันจะขึ้นข้อมูลอื่นๆที่เราจะใส่เพิ่มได้ ผมจะอธิบายความหมายของทุกช่องให้
  • Via จะใส่เมื่อมีสถานีอื่นที่เราต้องการผ่าน ถ้าไม่มีก็ไม่ต้องใส่
  • Order คือลำดับการเรียงตารางว่าจะให้เรียงตามเวลา, Transfer หรือค่าตั๋ว
  • Max Routes คือจำนวนเส้นทางที่จะแสดงข้อมูลให้ดู มากสุดคือ 10 เส้นทาง
  • Fare Type เป็นลักษณะการจ่ายเงิน มี 2 แบบคือตั๋ว (Ticket) กับ IC หมายถึงบัตรเติมเงิน (IC Card) ที่มีใช้ในญี่ปุ่น
  • Vehicle Type อันนี้สำคัญมาก เพราะเป็นตัวกำหนดเวลา และค่าใช้จ่ายของเรา
    • Airplane คือเครื่องบิน ไว้สำหรับระยะทางที่ไกลๆ
    • Airport Shuttle Bus คือรถบัสสนามบิน
    • Shinkansen คือรถไฟความเร็วสูง จะมีอยู่ 2 แบบคือ
      • Bullet Train ชินคันเซ็นทุกขบวนยกเว้น 3 อันหลัง
      • NOZOMI / MISUHO / HAYABUSA เป็นชินคันเซ็นด่วนพิเศษที่จอดเฉพาะสถานีใหญ่ๆ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สำหรับการแยกประเภท Shinkansen จะใช้กรณีของการเดินทางด้วย Japan Rail Pass หรือ Rail Pass บางประเภท ที่มีข้อจำกัดการใช้รถไฟชินคันเซ็น เช่น Japan Rail Pass ใช้กับ NOZOMI และ MISUHO ไม่ได้
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    • Limited Express คือรถไฟด่วนพิเศษ
    • Express คือรถไฟด่วน
    • Liner คือรถไฟที่วิ่งระหว่างเมือง พบได้ไม่ค่อยมาก 
    • Walk คือการเดิน มักใช้กรณีที่ต้องเปลี่ยนเส้นทาง แต่สถานีอยู่ใกล้ๆกัน
    • Sleeper Limited Express คือรถนอนด่วนพิเศษ
    • Sleeper Express คือรถนอนด่วน
    • Local Train คือรถไฟธรรมดา พบมากที่สุด (ควรเลือกไว้เสมอ)
  • Corp. คือผู้ให้บริการรถไฟ มี 2 อันคือ JR กับ Private Railway ซึ่งวิธีเลือกง่ายๆคือ อะไรที่ไม่ใช่ JR หรือ Shinkansen มันคือ Private หมด
จากตัวอย่างเรามีทั้ง JR กับ Subway (Private)
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ส่วนนี้มีความสำคัญกับผู้ถือ Rail Pass แบบต่างๆ ยกตัวอย่างเช่น 

  • Japan Rail Pass หรือ Rail Pass อื่นๆของ JR เราก็ควรคลิ๊ก JR อย่างเดียว
  • Kansai Thru Pass มีเงื่อนไขว่าใช้ไม่ได้กับ JR เราก็ควรคลิ๊ก Private Railway อย่างเดียว
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------
5. กด Search เราจะพบข้อมูลเส้นทางต่างๆ โดยจะแสดงผลตามข้อมูลที่เรากรอกไว้
ตัวอย่างเส้นทางจาก Nishinakajima Minamigata ไปยัง Himeji
ข้อมูลสำคัญที่แสดงได้แก่
  • เวลาที่รถไฟออกจากสถานี และเวลาที่ถึงปลายทาง 
  • ใต้ชื่อสถานีจะมีบอกชานชาลาที่เข้า-ออก
  • สถานีกลางทาง (ในตัวอย่างคือสถานี Shin-Osaka) จะแสดง 2 เวลา เวลาข้างบนคือเวลาที่รถไฟไปถึง เวลาข้างล่างคือเวลาที่รถไฟขบวนต่อไปออกจากสถานี หมายความว่านี่คือข้อมูลว่าเรามีเวลาที่จะเปลี่ยนรถไฟเท่าไหร่
  • ราคาในการเดินทางรวม (หมายเลข 1) แต่มีราคาแยกสำหรับรถไฟแต่ละขบวน
    • รถไฟบางประเภทสามารถเลือกแบบที่นั่งว่าจะเป็น Unreserved seat, Reserved seat หรือ Green seat (หมายเลข 2) ราคาก็จะเปลี่ยนแปลงตามชนิดที่นั่ง
  • รูปรถไฟเล็กๆจะแสดงประเภทรถไฟ และผู้ให้บริการ ถ้าเป็นสีเขียวจะเป็นรถไฟของ JR ส่วนสีชมพูจะเป็นรถไฟของเอกชน
  • กรณีถ้าเส้นทางที่เราเลือกต้องเปลี่ยนเส้นทางที่สถานีอื่นอีก (หมายเลข 3) มันจะแสดงเป็นสัญลักษณ์ลูกศรชี้ลง
วิธีการอ่านเส้นทางจากตัวอย่าง Route 1
1. รถไฟธรรมดาออกจากสถานี Nishinakajima Minamigata เวลา 8.20น.
2. ถึงสถานี Shin-Osaka เวลา 8.22น. ค่าใช้จ่าย 180 เยน ต้องไปชานชาลา 22 โดยขึ้นชินคันเซ็น Hikari 495  ซึ่งออกจากสถานีเวลา 8.39น.
3. เวลา 9.18น. ถึงสถานี Himeji ค่าใช้จ่าย (1490+2250) = 3740 เยน 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น