วันจันทร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

Photoshop Tip 2 : แก้ไขภาพติดแสง Over หรือ Under แบบง่ายๆ

สำหรับคนที่เพิ่งหัดถ่ายภาพใหม่ๆหรือนักท่องเที่ยวธรรมดาที่ไม่ค่อยรู้เรื่องถ่ายภาพคงสงสัยว่าภาพ Over กับ Under หมายถึงอะไร

ผมก็จะอธิบายง่ายๆคือศัพท์ 2 คำนี้ใช้กับภาพถ่ายที่แสงผิดไปจากความเป็นจริง ภาพที่แสง Over คือภาพที่สว่างกว่าความเป็นจริง ส่วนภาพที่แสง Under คือภาพที่มืดกว่าความเป็นจริง

วิธีการดูว่าภาพติด Over หรือ Under นั้นเราดูที่สเกลวัดแสงที่มีในกล้องถ่ายรูปดิจิตอลไม่ว่าจะเป็น DSLR หรือกล้อง Compact ทั่วไปสำหรับบางรุ่นอาจไม่มีให้แต่เราก็สามารถดูได้ด้วยตัวเองว่าภาพที่ได้มันสว่างหรือมืดกว่าสถานที่ที่เราถ่ายภาพอยู่
ด้านซ้ายแสงติด Over ด้านขวาแสงติด Under
คำถาม: ภาพพวกนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร
คำตอบ: ง่ายๆคืออยู่ที่การตั้งค่าของกล้องเรา เพราะถ้าเราเป็นแค่คนธรรมดาที่เวลาใช้กล้องก็แค่หยิบโทรศัพท์หรือกล้อง Compact ที่ตั้งค่า Auto กล้องมันจะตั้งค่าเพื่อให้รูปออกมาแสงพอดีอยู่แล้ว แต่สำหรับคนที่พัฒนาขึ้นมาหน่อย เริ่มใช้โหมดปรับค่าต่างๆเอง เช่น โหมด A, S, M, P โดยจะต้องเป็นคนกำหนดปริมาณแสงที่จะให้มีในภาพ ซึ่งการปรับค่าต่างๆเหล่านี้แหละก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ได้ภาพติด Over หรือ Under จากการวัดแสงที่ผิด

คำถาม: ถ้าใช้โหมด Auto ก็ไม่เจอภาพติด Over หรือ Under เลยงั้นเหรอ
คำตอบ: ไม่เสมอไป อยู่ที่สถานที่ที่เราถ่ายและจุดวัดแสงของกล้องด้วย สมมติเราถ่ายภาพคนในที่ร่มโดยมีฉากหลังเป็นข้างนอกตอนกลางวันสว่างๆ และกล้องเราตั้งค่าวัดแสงแบบเฉลี่ยหนักกลาง หรือเฉพาะจุด เราก็อาจได้ภาพที่แสงที่คนพอดี แต่ฉากหลังสว่างจนขาว (Over) หรือ ฉากหลังแสงพอดี แต่คนมืดแทน (Under)

แต่ถ้าเกิดถ่ายไปแล้วหละ การแต่งภาพแบบง่ายๆจะช่วยคุณได้ในโปรแกรม Adobe Photoshop

ขั้นที่1 เปิดรูปที่เราต้องการแต่งใน Photoshop (สำหรับรูปที่เห็นอยู่นี้จะติดแสง Under เล็กน้อย) เนื่องจากฉากหน้าค่อนข้างมืด และท้องฟ้าไม่ขาวจนเกินไป
ภาพนี้ถ่ายที่วัดโพธ์ในช่วงเวลาสายๆ แสงท้องฟ้าเริ่มจะสว่างแข็งๆแล้ว
คลิ๊กขวาที่ Layer แล้วเลือก Duplicate Layer เพื่อป้องกันไฟล์ต้นฉบับเสีย (ถ้าใช้ Camera Raw ไฟล์ต้นฉบับจะไม่เสียหาย)
ส่วนอันนี้แค่เป็นการตรวจสอบง่ายๆว่าภาพเราแสงพอดีหรือไม่ โดยการคลิ๊กไปที่ Image => Adjustments => Curves เราจะเห็น กราฟ Histogram ซึ่งจะบอกปริมาณแสงของภาพในทุกช่วงความสว่างโดยซ้ายจะเป็นมืดจนไปถึงขวาที่สว่างสุด จากที่เห็น ภาพนี้มีส่วนที่มืดกับสว่างเยอะมาก โดยช่วงแสงกลางๆมีน้อยมาก
ขั้นที่ 2 เริ่มปรับส่วนท้องฟ้าก่อน ในรูปท้องฟ้าค่อนข้างสว่างไปนิดนึง เราจะทำการลดความสว่างแค่ส่วนท้องฟ้าโดยการไฮไลท์ด้วยเครื่องมือที่ชื่อว่า Magic Wand Tool จากนั้นก็คลิ๊กลงไปในส่วนท้องฟ้า โดยมันจะไฮไลท์ท้องฟ้าเกือบทั้งหมด เป็นเพราะว่าท้องฟ้าอยู่ในช่วงโทนสีที่ใกล้เคียงกันมาก ถ้าเกิดมันไฮไลท์ไม่หมด เราก็เพิ่มส่วนไฮไลท์ด้วยการกด Shift ในคีย์บอร์ดค้างไว้ แล้วคลิ๊กส่วนที่ต้องการเพิ่ม ถ้าต้องการลบก็กด Alt ในคีย์บอร์ดค้างไว้ แล้วคลิ๊กส่วนที่ต้องการลบ (บางคนอาจต้องการความละเอียดมาก ก็สามารถใช้เครื่องมือ Lasso Tool หรือ Magnetic Lasso Tool ได้)
ขั้นที่ 3 คลิ๊กไปที่ Image => Adjustments => Shadows/Highlights 
ปรับความสว่างโดยการเลื่อนแค่ส่วน Highlights (บริเวณที่ลูกศรชี้) จนกว่าจะได้ความสว่างที่ต้องการโดยอย่าให้มืดจนหลอกตา
ขั้นที่ 4 หลังจากปรับ Highlights แล้ว ภาพที่ได้ท้องฟ้าจะออกสีเทาๆ เราก็แก้โดยการคลิ๊กไปที่ Image => Adjustments => Color Balance 
ปรับ Balance ของสีให้เหมือนท้องฟ้ามากยิ่งขึ้น แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าท้องฟ้าในรูปเราสีอะไร โดยในที่นี้ผมเลื่อนให้ออกโทนฟ้า (Cyan) เพราะฟ้าตอนนั้นเป็นสีฟ้า
ขั้นที่ 5 ปิดไฮไลท์บริเวณท้องฟ้าออกเพราะเราจะมาแต่งตรงฉากหน้าที่ติดแสง Under คลิ๊กไปที่ Image => Adjustments => Shadows/Highlights ปรับส่วนที่มืดโดยการเลื่อนแค่ส่วน Shadows (บริเวณที่ลูกศรชี้) อย่างให้สว่างจนหลอกตาเหมือนกัน
ขั้นที่ 6 เมื่อได้ภาพที่ทั้งฉากหน้าและท้องฟ้าแสงพอดีแล้ว เราก็มาปรับ Contrast ให้มีรายละเอียดส่วนของเงา โดยการคลิ๊กไปที่ Image => Adjustments => Curves แล้วปรับเส้นให้เป็นรูปตัว S ดังภาพ
ขั้นที่ 7 ปรับความสดของสีโดยการคลิ๊กที่ Vibrance ใน Adjustments ดังภาพ
เมื่อคลิ๊กไปแล้ว เราจะได้อีก Layer นึงที่ควบคุม Vibrance
เลื่อนค่า Vibrance หรือ Saturation ตามต้องการ โดยอย่าให้สดจนเกินไป (Vibrance ต่างกับ Saturation โดยที่ Vibrance จะมีผลในความสดของสีน้อยกว่า แต่จะเป็นธรรมชาติมากกว่า Saturation)
ขั้นที่ 8 เมื่อทุกอย่างเป็นที่พอใจแล้ว ก็รวม Layer โดยการคลิ๊กขวาที่ Layer ใดก็ได้ แล้วเลือก Merge Visible จากนั้นก็ Save
เมื่อเปรียบเทียบภาพก่อนแต่งกับหลังแต่ง

กลับไปยังหน้า Photo Tips

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น