วันพุธที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2557

เที่ยวอเมริกาด้วยตัวเอง วันที่ 3 เที่ยว California Adventure

*บทความนี้เล่าถึงประสบการณ์ที่ไปเที่ยวเมื่อปี 2552

อ่านวันที่ 1 วันอันวุ่นวาย

วันที่ 3

วันนี้เราก็จะไปอีกส่วนนึงของดิสนีย์แลนด์ คือส่วนแคลิฟอร์เนียแอดเวนเจอร์ (California Adventure) โซนนี้เน้นเครื่องเล่นแรงๆที่ผมชอบเยอะแยะเลย วันนี้เลยตื่นเต้นมาก ตอนเช้าเราออกไปทานอาหารเช้าที่ร้านอาหารใกล้ๆโรงแรม ชื่อร้าน IHOP เป็นร้านขายอาหารเช้าแบบอเมริกัน ผมก็สั่งตามที่ตัวเองคิดว่าน่าจะอิ่ม แต่ผมเคยเล่าในตอนวันที่1 แล้วว่าจานนึงของเค้าใหญ่มาก ผมก็กินไม่หมดก็ต้องห่อใส่กล้อง คำที่เราใช้เพื่อจะบอกพนักงานว่าขอกล่องห่อกลับ เราพูดสั่นๆว่า "Doggie Bag" (ไม่รู้มันใช้ได้ทั่วไปรึเปล่า แต่พ่อผมใช้แล้วพนักงานเข้าใจ) หลังทานเสร็จเราก็เดินไปทางเดิมที่ไปเมื่อวาน คือไปยังทางเข้าของดิสนีย์แลนด์ ซึ่งมันจะอยู่ตรงกลางแบ่ง 2ส่วนทิศเหนือก็คือดิสนีย์แลนด์พาร์ค ทิศใต้ก็คือแคลิเฟอร์เนียแอดเวนเจอร์ การตกแต่งของส่วนแคลิเฟอร์เนียแอดเวนเจอร์นี้จะไม่สวยงาม หรูหราอลังการเหมือนดิสนีย์แลนด์พาร์คเท่าไหร่นัก ก็อย่างที่บอก เค้าเน้นตัวเครื่องเล่นมากกว่า

เมื่อเราเข้าไปก็ไม่รู้จะเล่นอะไรเพราะมันน่าเล่นไปหมด เดินไปเรื่อยๆก็เจอเครื่องเล่นอันนึงที่ทำสวยมากคือ Grizzly River Run ให้เรานั่งเรือแพ (แบบเดียวกับแกรนด์แคยอนที่ดรีมเวิลด์) เค้าทำเหมือนแม่น้ำจริงๆคือมีน้ำตก มีต้นไม้ตกแต่งสวยมาก ไม่ใช้ฉากใดๆทั้งสิ้น เราก็เล่นอันนี้ก่อนเพราะจะได้เปียกๆตอนกำลังจะร้อนไปซ่ะเลยแปปเดียวก็แห้ง เพราะถ้าเปียกตอนเย็นเดี๋ยวอากาศก็เย็นลงจะมีปัญหาอีก
ยอดเขามีทำเป็นรูปหมี Grizzly ด้วย
รูปปั่นหน้าทางเข้า
บรรยากาศของเครื่องเล่นนี้ (ของเก่าภาพเลยไม่ค่อยชัด)
หลังจากเล่นเสร็จเราก็เดินลึกเข้าไปยังส่วนที่มีสระน้ำขนาดใหญ่เรียกว่าโซน Paradise Pier แต่ตอนที่เราไปนั้นเค้ากำลังก่อสร้างปรับปรุงอยู่ก็เลยไม่ได้เห็นความสวยงามเท่าไหร่ ชิงช้าสวรรค์ก็ซ่อม
ผมก็เล่นหลายอย่างแถวๆนั้นแต่สิ่งที่รอมานานคือได้รถไฟเหอะ California Screamin' ที่ติดอันดับต้นๆของรถไฟเหอะที่ยาวที่สุดในโลก โดยที่ไม่อยากรอผมก็ใช้บริการ Fastpass เพราะอยากเล่นมาก
พอได้ขึ้น ตัวรถเค้าก็มีลำโพงเปิดเพลงในตัวรถแบบที่ผมชอบ เพราะมันให้อารมณ์ตามจังหวะของการวิ่งของตัวรถไฟเหอะทำให้สนุกยิ่งขึ้น เค้าใช้ระบบที่ให้ตัวรถไฟพุ่งด้วยความเร็วสูงแบบเดียวกับที่ใช้ในการปล่อยเครื่องบินบนเรือบรรทุกเครื่องบิน โดยจะหยุดเหมือนให้ทำใจก่อนแล้วก็พุ่งขึ้นทันที เวลาทั้งหมดที่เราอยู่ในรถไฟเหอะก็ประมาณ 3นาทีกว่าถือว่านานทีเดียว มาทริปนี้ผมชอบอันนี้ที่สุดเพราะผมเป็นคนชอบรถไฟเหอะอยู่แล้ว กล้าพูดเลยว่าผมเป็นคนที่เล่นเครื่องเล่นได้ทุกแบบ กี่ครั้งติดต่อกันก็ได้แบบไม่มีปัญหาเลย ไม่เคยเวียนหัวกับเครื่องเล่นเลย มีแต่ออกมาแล้วอยากเล่นอีก (อันนี้ไม่ได้โม้ ผมพูดเรื่องจริง) หลังเล่นเสร็จแน่นอนผมก็จะกลับมาเล่นอีกครั้งก่อนกลับ
แผนที่ของ California Adventure ตอนเราไปยังไม่มีโซน Cars Land (บนซ้าย)นะ
เครื่องเล่นหลายอย่างในบริเวณ Paradise Pier จะอยู่ริมน้ำ

อันนี้คือ Maliboomer ปัจจุบันปิดแล้ว

ด้านหน้าคือ Toy Story Midway Mania! ด้านหลังคือ California Screamin'
ตอนนั้นก็เที่ยงๆแล้วเราก็กลับไปทานอาหารที่ร้านใกล้ๆเครื่องเล่น Soarin' Over California ระหว่างนั้นก็ใช้ Fastpass รอเวลากับเครื่องเล่นนี้เลย รอบๆบริเวณนี้จะตกแต่งคล้ายๆกับพื้นที่การบิน ร้านขายของอยู่ในโรงเก็บเครื่องบิน ขายของที่ระลึกเกี่ยวกับเครื่องบิน ผมก็ซื้อป้ายชื่อตัวเอง (เค้าจะมีของที่ระลึกที่มีติดชื่อคนทั่วๆไปขายเยอะมาก พอดีชื่อผมก็เป็นชื่อฝรั่งอยู่แล้วเลยมีให้ซื้อ) ตัวเครื่องเล่น Soarin' นี้จะอยู่ในอาคารโดยจะให้เราเหมือนอยู่ในเครื่องร่อนที่เหวี่ยงไปมาได้ จะมีจอหนังขนาดใหญ่ฉายภาพเหมือนกำลังบินอยู่ในสถานที่ต่างๆในรัฐแคลิเฟอร์เนีย

จากนั้นเราก็เดินไปอีกฝั่งนึง (ในแผนที่รูปบนจะเป็นโซนด้านซ้าย) แถวนี้จะมีแต่ของสบายๆอย่างหนังสี่มิติ It's Tough to Be a Bug! ในโซน A Bug's Land ที่มีตัวละครแมลงจากการ์ตูนเรื่อง A Bug's Life เป็นธีม ตัวหนังสี่มิติก็จะฉายภาพสามมิติ แต่มีหุ่นตัวละครอยู่รอบๆ มีการพ่นน้ำ พ่นกลิ่นเหม็นตามแบบแมลงอ่ะนะ ผมชอบตอนสุดท้ายที่เค้าปล่อยควันทั่วโรงแล้วมีตอนนั้นในเรื่องคือ Hopper(ตั๊กแตน)โจมตีรอบๆเรา ควันก็ทำเรามองไม่เห็นแล้วก็มีอะไรมาเตะหลังพวกเราด้วยสนุกดี
หน้าทางเข้า A Bug's Land
แล้วเราก็เดินไปที่โซน Hollywood Land โซนนี้เค้าจะตกแต่งแบบมีฉากที่ไว้ถ่ายทำหนังเป็นรูปตึกในนิวยอร์ค ผมก็ไปเล่นเครื่องเล่นไฮไลท์อีกชิ้นของที่นี้คือ The Twilight Zone Tower of Terror ซึ่งมีเรื่องราวคือเป็นโรงแรมที่มีผีสิงอยู่ในลิฟท์ รูปแบบการเล่นคือเราไปอยู่ในลิฟท์แล้วลิฟท์เสียก็ร่วงลงมา ภายในตกแต่งเหมือนโรงแรมมาก พนักงานก็แต่งชุดเหมือนพนักงานโรงแรม ตอนรอเค้าก็จะมีฉายเรื่องราวประวัติของโรงแรม ตอนผมเล่นผมถอดแว่นออกเพราะกลัวแว่นหลุด แต่มันมีช่วงนึงที่จะเห็นผีตรงหน้าลิฟท์ ผมก็เห็นเป็นแค่อะไรมัวๆเลยไม่ค่อยรู้เรื่องราวเหตุการณ์อะไรเท่าไหร่ รู้ตัวอีกที่ก็อยู่สูงแล้ว เห็นวิวภายนอกแค่แปปเดียวลิฟท์ก็ร่วงทันที ที่ผมเคยอ่านเจอเค้าบอกว่าลิฟท์แต่ละตัว แต่ละรอบไม่เหมือนกันด้วย คือดิ่งจากความสูงต่างกันอะไรอย่างนี้รึเปล่าผมไม่แน่ใจนะ
ภายนอกของ The Twilight Zone Tower of Terror ลงทุนตกแต่งน่าดู
พอเสร็จจากอันนี้เราไปเล่น Monsters. Inc. Mike & Sulley to the Rescue! เป็นเครื่องเล่นเด็กๆนั่งรถพักสบายๆคนไม่เยอะ จากนั้นแน่นอนผมบอกไปแล้วว่าจะเล่น California Screamin' ก่อนกลับอีกรอบนึง เราก็เดินไปที่รอคิวที่นั้น น่าแปลกที่เราใช้เวลารอคิวแค่ประมาณ 10นาที คงเป็นเพราะรถมีหลายขบวนปล่อยไปเรื่อยๆได้ และมี 2ชานชลาที่ให้ระบายคนได้ดีที่เดียว 

พอมืดแล้วเรากลับเลยเพราะเริ่มเหนื่อยและไม่รู้จะเล่นอะไรแล้ว อีกทั้งพรุ่งนี้ยังต้องออกเดินทางไกล
ก่อนกลับก็ถ่ายเก็บไว้นิดนึง
ขากลับเราแวะเดินที่ Downtown Disneyland เป็นส่วนที่มีร้านค้าขายของที่ระลึกมากมาย แต่เรากลับคนละทางกับทางเมื่อเช้าทำให้หลงทาง หาโรงแรมไม่เจอ เราก็แวะทานอาหารที่ร้านอาหารที่เจอแถวนั้น ทานเสร็จแล้วเดินไปไกลพอสมควร สุดท้ายก็เจอโรงแรมจนได้

จบวันที่ 3 วันเที่ยว California Adventure อ่านต่อวันที่ 4 เที่ยว SeaWorld

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น