วันเสาร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2557

เที่ยวอเมริกาด้วยตัวเอง วันที่ 4 เที่ยว SeaWorld

*บทความนี้เล่าถึงประสบการณ์ที่ไปเที่ยวเมื่อปี 2552

อ่านวันที่ 1 วันอันวุ่นวาย
อ่านวันที่ 2 เที่ยว Disneyland 
อ่านวันที่ 3 เที่ยว California Adventure

วันที่ 4
วันนี้เป็นวันที่เราไปเที่ยว SeaWorld ซึ่งอยู่ที่เมือง San Diego ทางตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย การเดินทางเราให้ทางโรงแรมหาทัวร์ที่จะมารับและพาเราไปได้เลย โดยเราได้ทำการจองในวันก่อนหน้านี้ ราคาถ้าจำไม่ผิดคนละประมาณ 65เหรียญสำหรับผู้ใหญ่ และวันนี้ก็ต้องมารอรถบัสที่จะมารับที่หน้าโรงแรมประมาณ 8โมงเช้า ผมก็ทานอาหารเช้าง่ายๆที่ซื้อจากเซเว่นตรงข้ามโรงแรม แล้วเราก็มายืนรอรถบัสโดยที่ไม่รู้ว่าจะเป็นรถแบบไหน โชคดีที่รถที่มารับเราติดโฆษณา SeaWorld ไว้ทั่วรถ ตอนแรกผมก็เข้าใจว่ารถคันนี้จะพาเราไปที่ SeaWorld เลยแต่ว่ารถนี้มีหน้าที่แค่รับลูกค้าตามโรงแรมที่อยู่บริเวณนั้น ประมาณ 9โมงกว่าๆ เค้าก็ได้มาส่งที่จุดปล่อยรถของบริษัท ซึ่งมีรถบัสจอดอยู่มากมายหลายเส้นทาง มาที่นี้เรามาจ่ายเงินและเค้าจะบอกให้ว่าขึ้นรถบัสคันไหน เราก็ไปที่รถบัสเจอคนขับที่แก่ๆสูงๆหน่อย ผมคิดอยู่ในใจว่าโอ้โห เอาคุณปู่มาขับรถเลยหรือนิ (ต่อไปนี้ผมขอเรียกคนขับรถบัสว่าคุณปู่แล้วกัน) เราใช้เวลาเดินทางไป San Diego ประมาณ 3ชั่วโมง สิ่งหนึ่งที่ผมชอบมากคือตลอดทางคุณปู่จะพูดบรรยายตลอดทางเลยว่าซ้ายมือคืออะไร ขวามือคือสถานที่อะไร ทำให้ตลอดทางดูน่าสนใจไปหมด แล้วเค้าก็เล่าว่าเค้าอายุ 70กว่าแล้ว ขับรถบัสเส้นทางนี้ทุกวันอังคาร กับพฤหัส ผมว่าคุณปู่คนนี้ดูไม่ธรรมดาเลย อายุมากแต่ยังมีความสามารถในการรับผิดชอบให้ความสะดวกสบายกับผู้โดยสารในรถบัสตลอดระยะทางไกลๆได้ดีทีเดียว เมื่อมาถึง SeaWorld เรียบร้อยเราก็ติดสติ๊กเกอร์ของทัวร์ไว้ที่เสื้อ แล้วเค้าก็ปล่อยเราจนถึง 4โมงเย็น

เมื่อเราเข้ามาภายใน เราก็มุ่งหน้าไปสถานที่แสดงโชว์โลมา ผมก็ไม่ได้ตื่นเต้นกับพวกโชว์สัตว์อยู่แล้วเพราะเคยดูมามากแล้ว แต่ผมชอบการตกแต่งของเค้า (ดีกว่าฉากของที่ซาฟารีเวิล์ด)
การแสดงโชว์โลมา
พอเสร็จจากโชว์โลมาเราก็เดินสัตว์ดูรอบๆ ที่นี่เป็นธีมปาร์คที่เป็นสวนสนุกกึ่งสวนสัตว์โดยจะเน้นสัตว์ที่อาศัยอยู่ในทะเล ก็เลยมีสัตว์ให้ดูมากมาย
สิงโตทะเล
นกฟลามิงโก้
พืชพรรณข้างทาง
แล้วเราก็มาดูโชว์เล็กๆ เป็นโชว์สิงโตทะเลก็ไม่มีอะไรมาก แต่ตอนสุดท้ายผมแอบตกใจนิดหน่อยตอนมีเจ้าตัวใหญ่สีเผือกว่ายมาจากหลังเวทีแบบไม่บอกใคร
จากนั้นเราก็เดินไปดูโชว์ที่เป็นไฮไลท์ของที่นี่คือโชว์วาฬเพชฌฆาต"Shamu" เป็นที่น่าทึ่งที่คนสามารถฝึกวาฬนักล่าที่อันตรายอย่างนี้ได้ อัฒจรรย์เค้าจะมีขนาดใหญ่กว่าโชว์อื่นเพราะคนมาที่นี่ต้องการดูโชว์นี้หมด

ภาพไม่มีเลยเอาวิดีโอมาให้ดู(ของเก่าภาพไม่คมชัดเหมือนเดิม)

พอจบโชว์ทุกอย่างเราก็ทานอาหารกลางวันโดยมีนกนางนวลยืนจ้องอยู่ข้างๆตลอดเวลา (คือสถานที่อยู่ใกล้ทะเล) เมื่อทานเรียบร้อย ตอนบ่ายก็เป็นเวลาของคนบ้าเครื่องเล่นอย่างผม ก็ประเดิมเลยอันแรกใกล้ๆที่นั่งทานอาหาร คือ Shipwreck Rapids เป็นแพล่องไปตามน้ำเชี่ยวคล้ายๆที่ไปเล่นเมื่อวานที่แคลิฟอร์เนีย แอดเวนเจอร์ แต่ครั้งนี้ต่างหน่อยคือเนื่องจากสถานที่อยู่ใกล้ทะเล ลมแรงบวกกับต้องเปียกออกมาด้วยทำให้คนที่เล่นคือผม น้องและพ่อต้องซื้อผ้าห่มคนละตัวคลุมออกมา คือตอนนั้นถึงจะมีแดดแต่ก็ไม่ได้ร้อนมากเพราะลมแรง เราก็ไม่อยากเป็นไข้ด้วย 

แล้วเราก็ไม่ได้เล่นอะไรหลังจากนั้นทันทีเพราะเครื่องเล่นมีไม่มากและรอให้ตัวแห้งด้วย ก็ไปเดินดูส่วนจัดแสดงสัตว์อย่างนกเพนกวินที่มีหลากหลายสายพันธุ์มาก
อีกทั้งได้ขึ้นเคเบิลคาร์ชมวิวทะเลภายนอกไปเรื่อยๆ
 เวลาที่นี้ใกล้จะหมดแล้ว ผมยังเหลืออีกอย่างที่อยากเล่นคือ Journey to Atlantis เป็นเรือกึ่งรถไฟเหอะ คือจะมีช่วงที่อยู่บนรางเหมือนรถไฟเหอะ และจะอยู่บนน้ำเหมือนเรือ ง่ายๆคือเป็นรถไฟเหอะที่ทำให้เราเปียก ด้วยเหตุที่มันเป็นเปียกทำให้ไม่มีใครในครอบครัวผมยอมเล่น แต่ผมก็ยังอยากเล่นเพราะไหนๆมาถึงที่นี่แล้ว เครื่องเล่นนี้ก็เป็นของหลักของเค้าด้วย ผมก็เลยยอมเล่นคนเดียว ก็ซื้อเสื้อกันฝนแล้วไปต่อคิวเหงาๆคนเดียว แต่พอได้ขึ้นแล้วก็สนุกดี มีอะไรให้ดูนิดหน่อยแต่ผมถอดแว่นเล่นเลยมองไม่เห็น พอตัวเรือดิ่งลงมาเปียกข้างล่างแล้วดันมีน้ำที่ฉีดใส่เรือจากคนข้างนอกอีก น้องผมก็เล่นฉีดน้ำอันเนี้ยแหละ
ด้านหน้า Journey to Atlantis
ตอนนั้นก็ถึงเวลากลับแล้ว พวกเราก็ไปขึ้นรถบัสของคุณปู่กลับ ระหว่างทางนั่งรถกลับก็เห็นเฮลิคอปเตอร์แบล็คฮอว์ค 3ลำของกองทัพสหรัฐบินเหนือชายหาดตอนพระอาทิตย์ตกก็เป็นภาพที่สวยดี ผมจำไม่ได้ว่าตอนกลับผมหลับรึเปล่า แต่ขากลับเนี้ยคุณปู่จะขับพาผู้โดยสารมาส่งตามโรงแรมเลย ผู้โดยสารทุกคนในรถคันนี้มีโรงแรมบริเวณใกล้ๆกันคือแถวๆดิสนีย์แลนด์ คุณปู่จะบอกว่าจะไปโรงแรมอะไรแล้วเรียกนามสกุลของผู้โดยสารว่าลงป้ายหน้านะอะไรอย่างนี้ ไม่ต้องสงสัยว่าเค้าอ่านนามสกุลคนไทยไม่ออก เลยไม่ได้เรียกนามสกุลพวกเราแค่บอกโรงแรม Jolly Roger ที่เราพัก ที่น่าประทับใจคือพอรถจอดหน้าโรงแรมปุ๊ป คุณปู่ยังอุตส่าห์ลงจากรถมาส่งด้วย ผมรู้สึกชื่นชมในความแข็งแรงและใส่ใจของคุณปู่คนขับคนนี้มากจริงๆ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น